ครั้งที่ 1 วันพุธ ที่ เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2554
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งแรกนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกถึงการที่ จิตสงบนิ่ง ร่างกายเบาเหมือนไม่มีน้ำหนัก ร้อนวูบวาบภายในร่างกาย และข้าพเจ้าก็ภาวนาว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” พยายามที่จะทำใจให้เห็นดวงแก้วกลมใส พยายามอยู่นานก็ไม่เห็นดวงแก้วกลมใส อาจจะเป็นเพราะว่าใจของข้าพเจ้ายังคิดกังวลถึงเรื่องอื่นอยู่ ก็เลยยังไม่เห็นดวงแก้วกลมใส เห็นแต่ความมืดมิด ถึงกระนั้นก็ตามข้าพเจ้าก็ยังสามารถนั่งต่อไปได้โดยไม่มีอาการเมื่อยล้าแต่อย่างใด และสุดท้ายข้าพเจ้าก็ได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 2 วันพุธ ที่ เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2554
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 2 นี้ ข้าพเจ้าก็ภาวนาแบบเดิมว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” พยายามทำจิตใจให้สงบนิ่ง เพื่อที่จะได้เห็นดวงแก้วกลมใส แต่พอนั่งไปนานๆข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนจะง่วงจะหลับ ก็เลยตั้งจิตมั่นพยายามบอกตัวเองว่า เราจะต้องไม่หลับ มีสติ มีสมาธิในการภาวนา และสุดท้ายข้าพเจ้าก็ยังไม่เห็นดวงแก้วกลมใส จากนั้นก็ได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 3 วันพุธ ที่ 14 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2554
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 3 นี้ ข้าพเจ้าก็ภาวนาแบบเดิมว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายเบาหวิว เหมือนจะลอยได้ จึงเกิดอาการกลัว แต่เราก็ตั้งสติได้ว่า เรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ได้ไปไหน พยายามจินตนาการถึงดวงแก้วกลมใส แต่ก็ยังไม่เห็น อาจจะเป็นเพราะข้าพเจ้าอยากเห็นดวงแก้วกลมใสมาก และจิตใจยังไม่นิ่งพอ คิดแต่เรื่องอื่นก็เลยยังไม่เห็น หลังจากนั้นก็ได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 4 วันพุธ ที่ 4 เดือน มกราคม พ.ศ. 2555
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 4 นี้ ข้าพเจ้าก็ภาวนาแบบเดิมว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” รู้สึกเมื่อยหลังขึ้นมาทันที อาจจะเป็นเพราะว่าข้าพเจ้านั่งหลังค่อม จึงขยับตัวให้นั่งตรงๆ อาการเมื่อยก็เริ่มหายไป ภาวนาไปเรื่อยๆ พยายามจินตนาการนึกถึงดวงแก้วกลมใส อยู่นาน โดยการตั้งสติให้นิ่ง ไม่คิดถึงเรื่องอื่นใดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นดวงแก้วกลมใสเลย และสุดท้ายก็ได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 5 วันพุธ ที่ 26 เดือน มกราคม พ.ศ. 2555
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 5 นี้ ข้าพเจ้าก็ภาวนาแบบเดิมว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” แล้วก็นึกถึงดวงแก้วกลมใส พยายามลองจินตนาการดู โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นใด นอกจากดวงแก้วกลมใส ก็ได้แต่ภาวนาไปเรื่อยๆอยู่นาน ก็ค่อยๆเริ่มเห็นเป็นดวงแก้วกลมใส มีขนาดเล็กมาก ลอยอยู่ตรงกลางท้อง ก็พยายามบังคับให้ดวงแก้วอยู่นิ่ง แต่เห็นไม่ค่อยชัดท่าไร สักพักก็หายไป ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นดวงแก้วกลมใส เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตของข้าพเจ้าที่ได้เห็น หลังจากนั้นก็ได้เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 6 วันพุธ ที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 6 นี้ ข้าพเจ้าได้ทำตามที่ ดร.มนัส โกมลฑา สั่งโดยการตั้งใจทำและตั้งจิตใจให้สงบนิ่ง หลังจากนั้นก็ท่องภาวนาว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” แล้วก็ลองจินตนาการถึงดวงแก้วกลมใส ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนจะร้อนวูบวาบ เหมือนจะลอยได้ จึงได้บอกกับตัวเองว่า เรานั่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน แล้วก็เริ่มค่อยๆเห็นเป็นดวงแก้วกลมใสขึ้น คราวนี้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย มีลักษณะเป็นสีใสๆ จึงบังคับให้ดวงแก้วอยู่นิ่งๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเห็นเหมือนพระอยู่ในท้องเรา แต่เห็นไม่ค่อยชัดเท่าไร จึงก้มลงกราบไหว้ท่าน พยายามที่จะพูดคุยกับท่าน แต่ก็ไม่สามารถพูดคุยกับท่านได้ และได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 7 วันพุธ ที่ 8 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 7นี้ ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะดร.มนัส
โกมลฑา จะให้นั่งนานกว่าเดิม และจะให้ลองนึกถึงจักรพรรดิ ข้าพเจ้าก็ค่อยๆเริ่มหลับตาลง ทำจิตใจให้สบาย สงบนิ่ง และ เริ่มภาวนาแบบเดิมว่า “หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” ท่องเบาๆในใจ แล้วก็เริ่มจินตนาการนึกถึงดวงแก้วกลมใส หลังจากนั้นก็เริ่มค่อยๆเห็นดวงแก้วกลมใสปรากฏขึ้นอยู่ตรงกลางท้องของเรา จึงบังคับให้ดวงแก้วกลมใสอยู่นิ่งๆ ณ ตอนนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกว่าร่างกายโปร่ง โล่งสบาย สบายตัว ต่อจากนั้นก็ได้เริ่มจินตนาการถึงพระ ก็ได้เห็นท่านอยู่ตรงกลางท้องของเรา ข้าพเจ้าพยายามจะพูดคุยกับท่าน แต่ท่านก็นิ่งเฉยไม่ตอบ ต่อมาก็ได้ลองนึกถึงจักรพรรดิ ข้าพเจ้าก็ลองจินตนาการดู ก็เห็นเหมือนคนแต่งตัวเหมือนกับตัวละครในเรื่องรามเกียรติ ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นถึงขนาดนี้ จากนั้นก็ได้ลองพูดคุยกับท่านและขอสิ่งศักดิ์จากท่าน แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถพูดคุยกับท่านได้ และได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
ครั้งที่ 8 วันพุธ ที่ 15 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
จากการฝึกกายธรรมจินตภาพ ครั้งที่ 8 นี้ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของการฝึกแล้ว ครั้งนี้ข้าพเจ้าตั้งใจฝึกจริงๆ เริ่มแรกโดยการนั่งในท่าที่สบายที่สุด จากนั้นค่อยๆหลับตาลง ไม่นึกถึงเรื่องสิ่งอื่นใด ทำจิตใจให้สบาย และเริ่มทำตามที่ ดร.มนัส โกมลฑา สั่ง แล้วก็เริ่มภาวนา เบาๆในใจว่า
“หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ใสในใส” ภาวนาไปเรื่อยๆสักพัก จนเริ่มเห็นดวงแก้วกลมใส ลอยอยู่กลางท้องของเรา จึงบังคับให้ดวงแก้วกลมใสอยู่นิ่งๆได้ ต่อจากนั้นก็เริ่มจินตนาการถึงพระ ก็ได้เริ่มเห็นท่านอยู่ตรงกลางท้องเรา จึงได้สนทนากับท่านอยู่สักพัก ณ ตอนนั้นข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจมากและตื่นเต้นที่สามารถพูดคุยกับท่านได้ หลังจากนั้นก็ได้ลองจินตนาการนึกถึงจักรพรรดิ ก็ได้เห็นจักรพรรดิแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนกษัตริย์ จึงได้สนทนากับท่านดู และได้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากท่าน สิ่งที่ข้าพเจ้าได้มานั้นมีลักษณะเหมือน ช้างแก้ว ม้าแก้ว จักรแก้ว และแก้วมณี จึงได้ขอบคุณท่าน และได้แผ่เมตตาให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตนเอง สรรพสัตว์ทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวร
สรุป
จากการที่ได้ฝึกกายธรรมจินตภาพนั้น ได้รับประโยชน์ต่างๆ คือ ทำให้จิตใจมีความสงบ มีสติอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งในเวลาเรียน ทำให้มีสมาธิในการเรียนมากขึ้น เวลาที่จะทำอะไรหรือจะพูดอะไรต้องคิดก่อนเสมอ รู้สึกได้ถึงการผ่อนคลาย คลายเครียดได้ ทำให้การดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าเปลี่ยนไป จากการที่ไม่ชอบการนั่งสมาธิ กลับกลายเป็นความชอบที่ได้นั่งสมาธิ และยังทำให้ข้าพเจ้ามีความสุข สบายใจ สบายตัว ข้าพเจ้าอยากจะสานต่อการฝึกกายธรรมจินตภาพนี้ โดยการฝึกในเวลาว่างเป็นประจำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น